ประชุมตำนานลานนาไทย


การสร้างเจดีย์หลวงกลางเวียงเชียงใหม่

....เมื่อนั้นพระยาติโลกราช ยังคนทั้งหลายเป็นต้นว่าหมื่นสิงหโคตร ก็หื้อกระทำยังมงคลทั้งหลาย หื้อปรารภเพื่อจักก่อมหาเจติยะนั้นแล เมื่อนั้น ศาสนาก็ล่วงแล้วได้ ๒๐๒๐ วะสา จุลศักราชได้ ๘๔๐ ตัว ในปีเปิกเสต เดือนเจียง แรม ๘ ค่ำ เม็งวัน ๕ ไทยเก่าเป้า ได้นักขัตฤกษ์กฎตัวถ้วน ๑๒ ชื่อว่าอุตตรผละคุณณาทิ ยามแถลจักใกล้เที่ยง คำเป็นมหุตตะดีนักแล พระยาติโลกราชตนนั้น ได้ค้ำชู เลิกยกยอ ศาสนา หื้อามาตย์ผู้ชื่อว่าสิงหโคต ก็แรกก่อในวันดียามดีวันนั้นแล พระยากับเสนา อามาตย์ราช ปุริสะปชา ทั้งหลาย ก็ก่อขึ้น บ่ขาดแตตีนธรณีขึ้นไปรอดเถิงหลังมุงปราสาทนั้นก็มีแล เมื่อนั้นคนทั้งหลายมีหมื่นสิงหโคตรเป็นประธาน ก็ขวนขวายมหาธาตุพระพุทธเจ้ามาจุมากนักแล มหาสัทธัมกิตติตนเป็นเจ้าที่ก็บังเกิดศรัทธา ก็บอกแก่คนทั้งหลาย ด้วยธรรมเมตตา แล้วก็หล่อแปงยังพุทธรูปพิมพ์อันแล้วด้วยเงินด้วยทองคำมีมากนัก เจ้าไทยยังรู้จักธาตุพระพุทธเจ้าแลธาตุพระอรหันตะเจ้าทั้งหลาย มีกับบุคคลผู้ใด เจ้าไทยก็หื้อมากนักแล ถัดนั้นเจ้าไทยก็หื้อตกแต่งเครื่องปูชาหื้อพร้อมชุประการแล อามาตย์ราชมนตรีเศรษฐี คหบดีกะดุมพีแลรัฐะปชาแลเถรานุเถระนาธัมขิต ภิกขุสามเณร คณะชุหมู่มาชุมนุมกันก็ถปนาตั้งไว้ยังธาตุพระพุทธเจ้ามีประมาณว่าได้ ๒๐๘๖/๕๓ พระองค์ ธาตุพระอรหันตะมี ๖๒๔ พระองค์ก็ถะปะนาตั้งไว้ยัง พระพิมพ์ แลพุทธรูป แลธาตุทั้งหลายในเจติยากนัก คนทั้งหลายก็ใส่ยังคำแหวนมุกดามากนักแล้วแล พระยาก็หื้อก่อขึ้นไปเถิงยอดอันนานาประมาณ ๓ ปี ก็มีแล พระยาก็หื้อแก้ว ๓ ลูก สุปกันเป็นยอดเจติยะก็หื้อทาสะทายแล้วหื้ออาบปูน แลดินกี่แข็งหื้อแล้วชุอัน ถัดนั้น พระยาก็หื้อเอาคำแห่งตนออกมากกว่า หมื่น ตีจังโกคำพอกมหาเจติยะแต่ยอดลงได้ ๒๗ วา ชุด้านแลตีนธรณีขึ้นเถิงยอดสูงได้ ๕๐วา ด้วยอุเพถะแลมหาเจติยะนั้น สูงรุ่งเรืองงามนักก็ปรากฏแก่คนทั้งหลาย อันอยู่ที่ไกลประมาณ ๖ พันวา ๗ พันวา เป็นที่จำหงายหมาย เมืองพิงเชียงใหม่ ปรากฏแก่ตาคนทั้งหลายอันอยู่แต่ทิศานุทิศะทั้งหลายชุแห่งก็ตั้งอยู่ดูงามมากนักแล แต่ธรณีขึ้นเถิงตีนเสาขอมเป็นรูปอันใหญ่มีช้างค้ำมี ๒๘ ตัวนั้นเป็นรูปอันใหม่แควนกว้างกว่าเก่า ขั้นไดลง ๔ ด้าน มีรูปนาค ๘ ตัว มีหัวแล ๕ ก็ตั้งอยู่ด้วยรูปเป็นดั่งเมื่อก่อนนั้นแล แต่ตีนเสาขอมขึ้นเถิงหลังชายนั้น เป็นรูปเค้า แต่หลังชายมุงขึ้นเถิงยอดหากเป็นรูปอันใหม่ตามดั่งเทวดาหากเอารูปเจติยะปรากฏหื้อพระยาด้วยนิมิตฝันแล

ถัดนั้น พระยาก็หื้อก่อกำแพงแวดชุด้าน แล้วก็สร้างบริเวณแวดทั้ง ๔ ด้าน วิหารเป็นที่ไว้พุทธรูปก็มีทั้ง ๔ ด้าน พระยาก็หื้อก่อโขงประตูอันใหญ่นั้นแล้ว ก็แต่งโขงพระเจติยะหื้อเรียบเพียงเรียงงาม ประกอบด้วยสะทายแล้ว พระยาก็หื้อแล้วยังกิจจะในที่นั้นชุอันแล ดินและอึดอันพอกด้วยเงินมี ๖๐๘๒๐ ก้อนนับเป็นค่า ๗๖๐๐ เงินเจียงแลอันพอกด้วยคำมี ๔๓๒๐ ก้อนนับด้วยเป็นค่า ๒๘๖๐๐ เงินเจียงใหม่แล หินอันพอกคำมี ๘๐๗ ก้อน แลคำอันพอกติดพุทธรูป โขงหลวง ๔ ด้าน นั้นควรค่าได้ ๔๕๓๐๐ เงินเชียงใหม่แล แผ่นจังโกคำน้ำหนัก ๘ แสนพอกแต่ยอดลงเถิงสะระในลูกถ้วน ๗ นั้นแล ในห้องเจติยะมีพุทธรูปพระพุทธเจ้าอันแล้วด้วยขาง ด้วยหยากชินมี ๒๓๓๙ องค์ รวมพุทธรูปเจ้าทองมี ๓๕๔๑ องค์ พระเจ้าแก้วมี ๘๓๘ องค์ พระเจ้าเงินหนัก ๕ พัน องค์หนึ่ง พระเจ้าคำหนัก ๕ พัน คำองค์หนึ่ง ธาตุพระเจ้ามีวรรณดั่งคำใหญ่ประมาณเท่าแก่นถั่วถิม มีเตชะอานุภาวะมากนัก รูปมหาสารีบุตร แลมหาโมคคัลลานเลอสีติสาวกเจ้า…

ตำนานพระเจ้าทองทิพย์ วัดสวนตาล

...พ.ศ. ๑๔๙๓ จุลศักราช ๔๑๒ พระยาติโลกราชยกพลนิกายไปทางเมืองลอ ตีเมืองลอ เมืองปง เมืองควรลงมาตีนดอยวาว มาถึงเขตเมืองน่าน ตั้งทัพอยู่สวนตาลหลวงแล้วก็ตั้งอาม๊อกสินาดยิงเข้าตรงประตูอูญาณ โห่ร้องเข้าคุมเอาเมืองน่านเวลากลางคืน เมื่อนั้นพระยาอินทะแก่นท่านก็บ่อาจจะต่อสู้ริพลสู้ท้าวพระยาตนใหญ่ได้ จึงเก็บเอาครอบครัวหนีไปพึ่งพระยาแช่เลียงสหายตนนั้นแล พระยาติโลกได้เมืองน่านแล้ว ท่านอยู่เมืองน่านหน่อยหนึ่งก็ปรึกษาเสนาอำมาตย์และโยธาทั้งหลายว่า พระองค์เราได้เมืองน่านนี้ก็บ่ได้ฆ่าฟันบั่นเนื้อกันแล เป็นดั่งเทพทิพย์มาค้ำชู สมควรเราจักทำสักขีพยานไว้แล ลางท่านก็ว่าควรสร้างเจดีย์มหาธาตุ ลางท่านก็ว่าควรก็พระพุทธรูป ลางท่านก็ว่าควรหล่อพระพุทธรูปให้ใหญ่ที่สุดพระองค์เราจะเอาทองที่ใดมาหล่อ ยังมีเสนาขุนหาญผู้หนึ่งไหว้พระยาว่า มหาราชเจ้ายกพลนิกายมาครั้งนี้ผาบที่ใดก็ได้ที่นั้นควรจะสัตยาธิษฐานลองบุญบารมีให้ได้ทองมามากนัก สักล้านหนึ่งก็จักสมฤทธีแล พระยาติโลกราชก็เห็นชอบด้วย ก็ตั้งสัตยาธิษฐานว่าข้าพเจ้าเกิดมาปางนี้ ตั้งใจจะบำรุงพระศาสนาด้วยบุญญาบารมีของข้าพเจ้า ถูกหน้าที่จะได้ปักคะหะเลิกยกยอพระพุทธศาสนาให้ก้านกุ่งรุ่งเรือง ขอให้เทพยดาอินทร์พรหมเหสิกขาอารักษ์ทั้งหลาย เอาทองทุกอย่างมาให้ข้าพเจ้าด้วยเทอญ เสนาอำมาตย์ก็ป่าวบอกข่าวสารแก่ประชาชนทั้งหลาย อยู่มานินาน ๗ วันมีประชาราษฏรนำทองต่างๆ หลายอย่างหลายชนิดรวมกันประมาณ ๑๒ ตื้อเศษพระยาเห็นดังนั้นก็มีปีติโสมนัสยินดียิ่ง จึงรวมนายช่างมีคนเมืองและม่านเงี้ยวต่อสู้ลาวกาวช่างเชียงแสน กระทำพิธีหล่อ ๑๗ วัน ๑๗ คืน จึงรวมตั้งเริ่มต้นมาได้ ๓ เดือน ๗ วัน จึงเป็นการสำเร็จเรียบร้อย พระยาก็ให้นิมนต์ภิกขุสังฆะราชามาทำปริตรตมงคลอบรม ฉลองทำบุญใหม่กันมากนัก ตามนิมิตที่พระยาติโลกราชาได้ตั้งสัจจาธิฐาน เอาทองมาหล่อพระเจ้าวัดสวนป่าตาล ประชาชนทั้งหลายจึงใส่ชื่อว่า พระเจ้าทองทิพย์ตลอดถึงบัดนี้แล พ.ศ. ๑๔๙๔ จุลศักราช ๔๑๓ ตัวพระยาติโลกก็มอบเมืองน่านให้เจ้าผาแสลูกเจ้าแพงกินเมืองน่านแทนพระยาติโลกก็ยกทัพมาเมืองพิงเชียงใหม่แลฯ...