อานิสงส์ของการทำบุญ



          กาลครั้งหนึ่ง ในสมัยพุทธกาลพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีสหายสามคน วันหนึ่งก็ถึงวาระของสามสหายจะได้ทำบุญ สหายทั้งสามคนนั้นก็ได้ทำบุญด้วยข้าวสลาก สหายคนแรกทำบุญอานิสงส์ข้าวสลากหนึ่งกอง สหายคนที่สองทำบุญด้วยข้าวสลากสองกอง และสหายคนที่สามทำบุญข้าวสลากสามกอง

          เมื่อสหายทั้งสามคนตายไป สหายคนที่หนึ่ง ก็ได้ไปเกิดเป็นพญาอยู่ในเมืองจุตถะคาม คนที่สองได้ไปเกิดเป็นพญาค่างเฒ่าอยู่ในป่า คนที่สามได้ไปเกิดเป็นพญาอยู่ในเมืองพาราณสี

          ฝ่ายพญาที่ทำบุญทานสลากกองเดียวที่เกิดเป็นพญาอยู่ในเมืองจตุถะคาม มีมเหสีมิ่งขวัญอยู่ขนาบข้างวันนั้นพญาก็คิด ขึ้นมาในใจว่า

          “ในโลกนี้ไม่มีใครจะพิชิตบุญญาธิการของพญาจตุถะคามได้ เพราะสามารถหักเหล็กได้เป็นท่อนๆ”

          พญาจตุถะคามก็บอกแก่มเหสีว่า

          “ดูรา แม่นาง ตัวข้านี้ไม่มีใครที่จะเทียบเท่ากับตัวข้าที่สามารถหักเหล็กได้เป็นท่อน ๆ ได้”

          มเหสีพญาจตุถะคามก็แย้งว่า

          "ดูรา เจ้าพี่แห่งข้า ไม้พุทธานี้สูงแท้ ไปในป่าไม้ดงหน้า ป่าหน้าก็คงจะสูงเหนือยิ่งกว่าต้นนี้"

          พญาจตุถะคามผู้เป็นสามีได้ยินดังนั้นก็โกรธ ก็ย้อนถามมเหสีไปว่า

          "ดูรา แม่นางเหย ถ้าหากแม่นางยังเห็นว่ามีคนที่เก่งกว่าผู้พี่ไปแล้ว ก็ให้แม่นางไปติดตามผู้ที่นั้นมาแข่งอิทธิฤทธิ์และวิชากับพี่ภายในเจ็ดวัน"

          มเหสีของพญาจตุถะคามได้ฟังดังนั้นก็ให้คนใช้ไปเสาะหาผู้ที่มีความรู้ความ สามารถ เหล่าคนใช้ก็ได้ไปพบกับพญาค่างเฒ่า ที่อยู่ในป่า จึงพามาเข้าเฝ้าแล้วกราบทูลพญาจตุถะคามว่า

          “ได้มาแล้วเจ้าข้า มาอยู่ที่ลาน พร้อมที่จะทดลองวิชาอาคมกันแล้วเจ้าข้า“

          พญาค่างเฒ่าก็รออยู่ที่ข่วงหรือลานกว้าง ฝ่ายพญาจตุถะคามก็รีบลงมาจากปราสาทเพื่อจะมาแข่งฤทธิ์กับพญาค่างเฒ่า เมื่อพญาจตุถะคามมาถึงข่วงประลอง พญาค่างเฒ่าก็เอ่ยว่า

          “เอาเถิด เจ้าเมืองจตุถะคาม ขอให้พ่อพญามาอยู่บนหางข้าก่อน แล้วพ่อพญาจะรู้ว่าเราสองคนนี้ใครจะดีเด่นและยิ่งใหญ่กว่าใคร “

          พญาเจ้าเมืองจตุถะคามก็เข้าไปนั่งยองๆ อยู่บนหางพญาค่างเฒ่า พอพญาค่างเฒ่ากระดิกหางแค่ครั้งเดียวพญาจตุถะคาม ก็ปลิวว่อนไปตกยังเมืองพาราณสี พญาเจ้าเมือง
พาราณสีเห็นดังนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า

          “โอ เหตุใดพญาเจ้าเมืองจตุถะคามจึงได้พลัดบ้านพลัดเมืองมาถึงเมืองพาราณสีนี่ได้เล่า“

          พญาจตุถะคามก็เล่าความเป็นไปให้เจ้าเมืองพาราณสีฟัง ทีนี้พญาพาราณสีรู้เรื่องแล้วก็กล่าวว่า

          “โอ ไม่เป็นไร พญาจตุถะคาม เอาเถอะ เดี๋ยวเราจะส่งพ่อพญากลับถึงเมืองจตุถะคาม ขอให้พ่อพญาขึ้นมานั่ง บนมือของข้าเถอะ"

          พญาจตุถะคามที่ปลิวมาตกยังเมืองพาราณสีก็เกิดเป็นห่วงบ้านเมืองขึ้นมาก็เลยขึ้นไปนั่งอยู่บนอุ้งมือของพญาพาราณสี พญาพาราณสีก็เป่าให้ไปตกยังเมืองจตุถะคามเหมือนเดิม

          เหตุที่พญาแต่ละคนมีพละกำลัง มีความสามารถต่างกันก็เพราะในชาติก่อนได้ทำบุญสร้างกุศลมาไม่เท่ากันนั่นเอง