อ้ายหน้าหม้ง



          ในสมัยครั้งนั้นนมนานมาแล้ว มีสองผัวเมียอยู่บ้าน เคยไปไร่ทุกวัน แต่วันนั้นเป็นวันโกนคือวันดาเป็นการเตรียมข้าวของเพื่อจะไปวัดในวันรุ่งขึ้น ผู้เป็นเมียไม่ได้ไปสวน ก็เลยให้สามีไปสวนคนเดียว พอไปสวน เมียอยู่ทางบ้านก็ทำขนม ทำขนมหน้าถั่ว เมียทำขนมจนถึงเที่ยงสามีก็กลับมาที่บ้าน แบกฟืนมาวางไว้ ผู้เมียก็ว่า

          “ได้แบ่งข้าวหนมหน้าถั่วไว้ให้แล้ว”

          ผู้ผัวก็ขึ้นไปบนเรือน เมียก็ได้ลงเรือนไปที่บ่อน้ำ ผัวไม่รู้ว่าเมียแต่งขนมจะเอาไปวัด จะไปทำบุญวันพรุ่งนี้ พอขึ้นเรือนมา มันเห็นถั่วที่โรยหน้าขนมก็เก็บถั่วมากินหมด พอหมด แล้วมันก็เดินลงจากเรือนไป พอดีเมียมันขึ้นมา เมียมันตกใจ เมียว่า

          “เอ้า ไผมากินถั่วหน้าข้าวหนมนี่หมดหา” ถามผัวมัน ก็ปฏิเสธ

          “ข้าบ่รู้เน่อ”

          “สาธุ ถ้าผู้ใดกินถั่วหน้าข้าวหนม เกิดมาแหมชาติหน้าขอหื้อหน้าเป็นหม้งเป็นหม้าง (เป็นหลุมไม่เรียบเนียน) เหมือนข้าวหนมเน่อ“ เมียมันก็กล่าวแช่งไว้

          ฝ่ายผัวมันก็หัวเราะคึกคัก เพราะว่ามันแอบกินแล้ว ทีนี้นานมาทั้งสองผัวเมียตายไป ผู้เป็นเมียตายไปเป็นลูกพญาเจ้าเมือง แต่ผัวมันตายมาเป็นลูกทุคตะเป็นหน้าหม้งหน้าหม้าง ไม่สวยงาม ชายทุคตะนั้นก็อยู่ใกล้เวียงเหมือนกัน ทีนี้มันก็ไปเห็นลูกสาวพญาเจ้าเมืองเพราะบุพเพแต่ชาติเก่า มันก็หลงรักลูกสาวพญาเจ้าเมือง ชายทุคตะก็ไปบอกให้แม่มันไปขอลูกสาวพญาเจ้าเมือง แม่มันว่า

          “โห อ้ายหน้าหม้ง มึงจะไปว่าอั้นเน่อ พญาเจ้าเมืองรู้เปิ้นจะฆ่าหัวมึงแหล่ จะไปเยียะแท้ จะไปว่าแต๊เน่อ” (อย่าพูดอย่างนั้น ถ้าพญาเจ้าเมืองรู้ท่านจะฆ่าเจ้านะ)

          มันก็ว่า

          “บ่เป็นหยังนา ไปขอเต๊อะ” (ไม่เป็นไรหรอก ไปขอเถอะ)

          มันก็บ่นแม่มันไป แม่มันอดไม่ได้ แม่มันก็ไปหาพญาเจ้าเมือง พอแม่ของชายทุคตะเข้าเฝ้าพญาเจ้าเมืองก็กล่าวว่า

          “ไหว้สามหาราชะเป็นเจ้า บะเดี่ยวนี้ลูกข้ามีคนหนึ่งชื่อว่าอ้ายหน้าหม้ง บ่งาม ละก็บ่มีงานทำอะสังสักสิ่งสักอย่าง ใคร่ขอหื้อท่านพญาเจ้าเมืองเอามาใช้มาสอยเต๊อะ เอามาใช้อย่างใดก็เอามาใช้เต๊อะ”

          พญาก็ว่า “เออ ดีละ เอามาหื้อมาเลี้ยงม้า เกี่ยวหญ้า หื้ออยู่โรงม้าปุ๊นเน่อ”

          แม่มันก็ดีใจกลับไปบอกเจ้าทุคตะ เจ้าทุคตะมันมาถามแม่ของมัน

          “แม่ เปิ้นว่าจะใด”

          “โอ ลูกเหย ก็ดีเหมือนกันถ้าลูกไปเปิ้นว่าจะผ่อน้ำการก่อน ถ้าน้ำการลูกยังดีเปิ้นจะเอาลูกสาวพญาเจ้าเมืองหื้อ”

          มันก็ดีใจไปอยู่โรงม้า ไปเกี่ยวหญ้าม้าทุกวัน บางครั้งก็เอาหญ้าม้ามาจนถม เถ เท่าใดมันก็เอามาไว้ เพื่อที่จะให้พญาเจ้าเมืองดูน้ำการคือดูการทำงาน เพราะมันอยากจะเอาลูกสาวพญาเจ้าเมืองเป็นเมีย มีวันหนึ่ง พญาเจ้าเมืองเมืองหนึ่งมีสาส์นมาขอลูกสาว พญาเจ้าเมืองก็ได้ยกลูกสาวให้ไปโดยไม่รู้ว่าเจ้าทุคตะเข้าใจว่าพญาจะยกลูกสาวให้กับตน พอเจ้าทุคตะรู้เรื่องราวที่พญายกลูกสาวให้กับเจ้าเมืองอื่นมันก็โกรธและกล่าวว่า

          “โห พญานี่จะใด อู้ไหนบ่มีหั้นจุ๊ข้าจะใด บ่าเดี่ยวนี่ว่าถ้าข้าเลี้ยงม้า ข้าทำการดีจะเอาลูกสาวหื้อข้า บะเดี่ยวนี้จะใดตกลงหื้อพญาเจ้าเมืองอื่น ข้าบ่ยอม แหมบ่เมินค่ำเมื่อใดก็ดี ขอนางลงมาสักกำเต๊อะ “

          ไอ้หน้าหม้งได้คิดวางแผนเตรียมการเอาไว้เพื่อที่จะลักพาตัวลูกสาวพญาเจ้าเมืองตอนนางไปอาบน้ำ มันเตรียมไว้แล้ว ไหข้าว หม้อนึ่ง ข้าวสุก ข้าวสาร มันเตรียมไว้หมด อานม้า มันคอยนาง ค่ำมานางลงมาอาบน้ำ ลูกสาวพญาลงไป จะไปอาบน้ำ มันค่อยย่อง จับตัวลูกสาวพญาเจ้าเมืองได้เอาผ้ามัดปากไม่ให้ร้อง อุ้มขึ้นม้าแล้ว ตีม้าวิ่งออกเวียงไป

          เจ้าเมืองสั่งทหารให้หาลูกสาวเพราะว่าไปอาบน้ำนาน ทหารหานางไม่เจอเพราะอ้ายหน้าหม้งลักนางไปแล้ว เจ้าเมืองจึงสั่งให้ทหารออกตามหา ไอ้หน้าหม้งมันพาลูกพญาเข้าป่าไปแล้ว มันจอดม้า ทหารของพญาก็ตามหากันทั้งวันทั้งคืน ไอ้หน้าหม้งมันก็ดังไฟนึ่งข้าว นางนั้นถามว่า

          “อ้ายหน้าหม้ง มึงเอากูมาทำไม”

          “ก็เอามาก่า พ่อพญาบอกว่าถ้าข้าทำงานดีจะมอบนางให้เป็นเมียข้า” ไอ้หน้าหม้งตอบ

          “ปุดโท ๆ ข้าบ่เอาเน่อ มึงยังบ่ผ่อตัวมึงหน้าเป็นหม้งเป็นหม้างไผจะไปเอา กูยังบ่รู้ กูตึงบ่เอา “
“ข้าตึงจะเอา “ ไอ้หน้าหม้งตอบกลับทันที

          “เต๊อะน่า ถ้าข้าปาก(พูด)กับมึงพ้น ๓ คำ ข้าจะยอมเป็นเมียมึง” ลูกสาวพญาใช้เล่ห์เหลี่ยมต่อรองไอ้หน้าหม้ง

          “ก็ดี”

          ไอ้หน้าหม้งตั้งก้อนเส้า เอาหม้อนึ่งเข้าใส่ เอาไหเข้าใส่เอาข้าวเข้าใส่ ตั้งดังไฟ กำเดียวมันบ่เอาเต่วหม้อนึ่ง(ผ้าที่เอาไว้อุดรอยต่อระหว่างหม้อนึ่งข้าว)ใส่ ขวายมา ๆ นางก็อยากกินข้าวแท้เนอ นางก็อดไม่ได้ จึงบอกกับไอ้ทุคตะว่า

          “ยังบ่เอาเต่วหม้อนึ่งเข้าใส่เหีย”

          “โฮ แท้น่อ”

          มันก็เอาเต่วหม้อนึ่งเข้าใส่ ได้ซักครู่ข้าวขึ้นเริ่มที่จะสุกแล้ว มันบ่เอาฝาปิด ข้าวนี่ก็ ไม่สุกง่ายๆ นางนั้นก็อยากกินข้าว จึงบอกออกไปอีกว่า

          “ก็ยังบ่เอาฝาชีเข้าใส่เหียละ”

          "เอ่อ แต้..." (จริงสินะ)

          มันก็เอาฝาปิดหม้อนึ่ง ซักครู่ข้าวสุก มันยกข้าวลงมา ทีนี้ก็เอาไม้ด้ามคนข้าวเหน็บเอวแล้วก็แกล้งเดินไปเดินมา

          “เอ๊ ข้าเอาไม้ด้ามไปไว้ไหนหา”

          เอากรายหน้านางไป กรายหน้านางมา พอขวายนางก็อยากกินข้าว ถ้านางเกิดพูดกับมันอีกครั้งละก็ นางก็จะตกเป็นเมียของไอ้หน้าหม้งตามที่สัญญากันไว้ นางก็ไม่ยอมพูด มันก็เอาแต่เดินผ่านหน้าไปมาๆ ข้าวก็จะเย็นละ นางอดไม่ได้

          “ก็มึงเอาเหน็บแอว”

          “แน่..นางเป็นเมียข้าแล้ว”

          พอดีหมู่เสนาอามาตย์ทั้งหลายเอาม้าติดตามมา พออ้ายหน้าหม้งเห็นเหล่าเสนาทหารติดตามมา มันก็กระโดดขึ้นม้าควบหนีเข้าป่าไปทิ้งนางลูกสาวพญาไว้ที่นั่น พอเข้าในแพะในป่าแล้ว เทวดาเห็นเหตุการณ์เช่นนั้นก็ร้อนใจ เทวดาโยนถงขี้ลักให้อ้ายหน้าหม้ง มันได้ถงขี้ลักแล้วก็พกติดตัวไปด้วยทุกที่ ถงนี้จะใช้ไปที่ไหนไปทั้งนั้น ไปลักอะไรก็ไปได้ทั้งนั้น อ้ายหน้าหม้งเดินทางไปเรื่อย ก็ไปพบพระฤาษี พระฤาษีองค์นี้มีกลองวิเศษ กลองวิเศษนี้ถ้าหากว่าเอาใบมะขามใบอะไรก็ตามยัดเข้าไป จะเอาเป็นเสนาทหารเท่าใดก็ได้ จะเอากี่หมื่นกี่แสน จะเอาเป็นทหาร มีอาวุธยุทธภัณฑ์พร้อม มีดาบมีง้าวออกมา แค่เอาใบไม้ใส่แล้วตี เป็นทหารเดินไปใช้ไปฆ่าคนยังได้ มันไปปฏิบัติพระฤาษีได้ ๗ วัน มันนึกในใจข้าขอลา ข้าจะไปที่อื่น พอไปได้ครึ่งทางเกือบจะถึงพระฤาษีอีกองค์หนึ่ง

          “ถง มึงไปลักกลองวิเศษหื้อกู”

          เมื่อคืนถงก็ไปลักกลองวิเศษให้มัน มันก็ซ่อนไว พอไปปะพระฤาษีองค์ใหม่ พระฤาษีองค์นี้มีพร้าด้ามวิเศษ คือมีมีดวิเศษ มีดวิเศษนี้จะใช้ไปตัดหัวตัดคอใครได้ทั้ง นั้น มันมาอยู่ปฏิบัติพระฤาษีได้ 7 วัน มันเห็นพระฤาษีใช้พร้านี้ไปตัดตามที่มันต้องการได้

          “มึงไปตัดกิ่งไม้แห้งมาไป๊”

          พร้าก็บินไป ตัดไม้มาเป็นท่อนๆ

          “อือ พร้านี้เก่งจริง ใช้ไปไหนไปได้หมด” อ้ายหน้าหม้งกล่าว มันเป็นลูกศิษย์พระฤาษี มันรู้เรื่องทั้งหมดทั้งการสั่งการการบังคับพร้าด้ามนี้ มันลาพระฤาษีพอมาถึงกลางทาง มันก็ใช้ถงไปเอาพร้าด้ามนั้นมา

          "ถงไปลักพร้าด้ามมาหื้อกู” ถงนั้นไปลักพร้าด้ามวิเศษได้มา มันเดินไปก็ได้พบพระฤาษีอีกตน พระฤาษีมีหม้อน้ำกะทิวิเศษ หม้อวิเศษนี่ถ้าเอาน้ำเข้าใส่ ถ้าจะเทลงแผ่นดินจะให้เป็นแม่น้ำท่วมก็ได้ มันอยู่ได้อีก 7 วันมันก็ลาพระฤาษี

          “ข้าขอลาท่านพระฤาษีไปก่อน ข้าจะไปหาแม่ข้า” พอมาครึ่งทางบอกว่า

          “ถง ไปลักเอาหม้อหั้นมาหื้อกูหื้อได้”

          มันก็ไปลักหม้อมา มันได้ของวิเศษถึง ๓ อย่าง กลองวิเศษน่อ พร้าด้าม หม้อกะทิ อ้ายหน้าหม้งมันเข้าเมืองไปเห็นทหาร ทหารก็จำมันได้ว่ามันพาลูกสาวพญาหนีทหารก็ฆ่ามัน

          “โอ้ ไอ่หน้าหม้งมาแล้ว ต้องฆ่าไอ่หน้าหม้ง”

          “เออ กูมาแล้ว จะเยียะจะใดหื้อข้า”

          “บะเดี่ยวนี้พญาเปิ้นจะเซาะจับมึงไปตัดคอ มึงลักลูกสาวเปิ้น”

          “โทะ” อ้ายหน้าหม้งมันหัวเราะ

          “ข้าบ่กลัว ท้าให้สูมารบข้าก็ได้ ไปบอกพญาเจ้าเมืองสูมารบข้านะ”

          เขาไปบอกพญา พญาโกรธมาก

          “เอา ทหารไปรบอ้ายหน้าหม้ง มันจะวิเศษแค่ไหนเชียว”

          เมื่อทหารจะมา มันเอาน้ำเข้าใส่หม้อ ราดเข้าไปเป็นแม่น้ำนองขึ้นมา เขาข้ามไม่ได้ ทีนี้มันบอกว่า

          “กลองนี้เป็นทหารไปรบ”

          มันเอาใบไม้มา เป็นทหารไปรบ ใช้พร้าไปตัดคอทหาร ในที่สุดมันว่า

          “ไปบอกหื้อพญาสูมารบพญากู สองต่อสอง”

         
          เหล่าทหารไปบอกพญาเจ้าเมือง พญาเจ้าเมืองก็โกรธมากกว่าเก่า

          “ไอ่หน้าหม้ง คิงท้าฮามารบมึงกา” พญาพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธกริ้วมาก

          “เออ”

          “มา รบก็รบ “

          “พร้าวิเศษ ไปตัดคอพญาบะเดี่ยวนี้” ไอ้หน้าหม้งกล่าวขึ้น พร้านั้นก็ไปตัดคอพญา พญาตกลงช้างไปเลย ตายแล้วน้ำก็แห้งไปหมด มันบอกว่า

          “น้ำแห้ง สูทังหลายจะว่าจาใด”

          เสนาอามาตย์ทังหลายมาไหว้อ้ายหน้าหม้ง

          “ท่าน ขอหื้อท่านเป็นพญาเจ้าเมือง ท่านมีฤทธิ์มีอำนาจ ขอหื้อได้ลูกสาวพญาเจ้าเมือง”
มันเลยได้ลูกสาวพญาเจ้าเมือง และครองเมืองนั้น