แม่เลี้ยงใจร้าย



          เรื่องก็มีอยู่ว่ามีบ้านอยู่หลังหนึ่ง เจ้าของชื่อสีมา เป็นชาวนาคนจน มีลูกผู้ญิงคนหนึ่งชื่อ ทอง แม่ตายไปไม่นาน พ่อก็เอาเมียใหม่เป็นแม่ม่ายลูกติด พ่อก็ไปทำงาน ให้ลูกเล่นอยู่กับบ้านสองคนกับตาลูกแม่น้า ส่วนพ่อก็ไปค้าไปขายไม่ได้อยู่บ้านสองสามวัน แม่เลี้ยงกับตาช่วยกันใช้ให้ทองทำการทำงานในบ้านทุกอย่าง ใช้ให้ไปเอาฟืน บังคับให้กินแต่ผลไม้ หัวมัน เอาฟืนมาบ้าน แม่น้าก็ว่า

          “เป็นยังไงมันทำไมไม่ผอม ข้าวกูก็ไม่ได้ให้มันกินมาก “

          วันหลังมาแม่เลี้ยงก็บังคับเฆี่ยนตีทองให้บอกความจริงว่าทำไมถึงสมบูรณ์แข็งแรงดีอยู่ ทั้งๆ ที่ให้กินไม่มากมายอะไร แต่ลูกสาวก็ไม่บอก ส่วนลูกของแม่เลี้ยงก็ไม่ทำงานอะไรได้แต่กินนอน แต่งตัวเท่านั้น วันหลังมาทองลุกนึ่งข้าวไปเห็น เห็นหมาผอมตัวหนึ่งเอ็นดูหมา ก็เอาข้าวให้มันกิน แม่น้าก็เห็นก็เอามีดฟันหมา ๆ ก็ร้องวิ่งไป ภายหลังก็ไล่ทองไปนอนกับหมา มดแมงก็ไม่ไต่ตอม นกก็มาสับกินยุงกินเรือด ไม่ให้รบกวน เพราะว่าแต่ก่อนนี้ ทองได้เอาข้าวเอาอะไรมาให้นกให้หนูกิน ทีนั้นก็ไม่มีอะไรมาขบกัด มดก็ทำสะพานให้ข้าม มดไม่ลืมบุญคุณของทอง

          ตั้งแต่นั้นทองก็งามกว่าลูกของแม่เลี้ยง แม่น้ามันก็เกิดอิจฉาทอง ก็ให้ลูกตัวมานอนบ้าง พอมานอนยุงก็กัดอยู่ที่ไหนไม่ได้ร้องไห้ไปหาแม่มัน นอนหลับไม่ได้ ลูกสาวแม่น้าก็บอกให้แม่มันมานอนแทน แม่มันมานอนแล้วก็เฆี่ยนทองอีก

          “มึงเป็นยังไงยุงไม่ขบกัด เป็นยังไงลูกกูไปนอน ทำไมยุงถึงกัด”

          แม่เลี้ยงก็เฆี่ยนตีทองอีก หมาตัวนั้นก็วิ่งมา เพราะได้ยินเสียงร้องไห้เพราะแม่น้ามันตี หมาก็วิ่งมาๆ พบทองๆ ก็น้ำตาไหล หมานั้นก็ล่นมาหา ทองมาดูที่หลังหมา แผลมันหายดีแล้ว น้ำตาของทองนั้นก็ได้หยดลงที่ตัวหมานั้น หมาก็กลับกลายเป็นเจ้าชาย เป็นลูกพระยาเจ้าเมือง เมื่อภายหลังก็เลยเอาทองไปเป็นเมียไปอยู่ในพระราชวัง ทองก็เอาพ่อมันไปอยู่ด้วยในวัง ภายหลังหมาป่าเข้ามาในบ้าน แม่น้ามันเห็นก็เรียกลูกมัน

          “เร็วๆ ลูกเอาข้าวให้มันกินเยอะๆ”

          หมานี้มาถึงตัวก็มากัด มากินสองแม่ลูกนั้นเสีย