แม้วฟังธรรม



          ในกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีหมู่บ้านแม้วหมู่หนึ่ง สำหรับหมู่แม้วหมู่นี้ อาศัยอยู่ตามห้วยตามดอน บ่ใช่อยู่อย่างเฮานี้นา บ่ใช่เหมือนกัน เป็นแม้วทำบุญสุนทาน คือชอบฟังน้ำฟังธรรม วันหนึ่งๆ จะต้องมีพระมาเทศน์หื้อฟัง ตุ๊เจ้ามาเทศน์หื้อฟังเป็นประจำอยู่เสมอ คือว่าการเทศนี้หมู่แม้วบ่ใช่หื้อมาเทศน์บ่ดาย จะต้องติดกัณฑ์เทศน์ตวย กัณฑ์เทศน์บ่ใช่หน้อยๆ บ่ต่ำกว่าร้อย ด้วยอาศัยกัณฑ์เทศน์ของหมู่แม้วหมู่นั้น

          อยู่มาวันหนึ่ง ก็มีป้อจายคนหนึ่ง เป็นคนธรรมดาอย่างเฮาเนี้ยะ ป้อจายคนนั้นเคยหันหมู่แม้วนี้ฟังธรรม ติดกัณฑ์เทศน์ตวยก็ติดใคร่ได้เงิน เกิดความโลภขึ้นสมองละ ก็เลยหาวิธีการละตอนนั้น หาวิธีการอย่างใดก็เลยกึ้ดขึ้นมาว่า

          “เออ แม้วหมู่นี้ท่าจะบ่ฉลาดพอ ข้าเนี้ยะจะปลอมเป็นพระดีกว่า” แล้วป้อจายคนนั้นก็ผกผ่อตึงวัน มาหันพระมาปันศีลเทศน์ธรรม คือว่าศีลนี้มันพอจะจำได้ สำหรับธรรมนี้มันบ่รู้จะเอาอะหยังมาเทศน์ ปิ๊กไปก็ปลอมเป็นตุ๊เจ้าก่า ไปปลอมเป็นตุ๊เจ้ามา โกนหัวนุ่งห่อมผ้าเหลืองเหีย ตอนนั้นพระคนที่เคยมาก็ยังบ่มาเทศน์เตื้อ มันก็เลยล่วงหน้ามาก่อนตุ๊เจ้าที่บ่ปลอมนั้น มาถึงก็หมู่แม้ววันนี้ว่า

          “วันนี้มีตุ๊เจ้าใหม่มา คงจะมีเรื่องๆ มาเทศน์หื้อฟัง” แล้วก็ฟั่งเตรียมกัณฑ์เทศน์กัน ช่วยกันออกคนละเล็กละน้อย ใส่กัณฑ์เทศน์หื้อตุ๊เจ้าตนั้น ตุ๊เจ้าตนนั้นก็หยากหยายขึ้นธรรมาสน์บ่ช้างเยียะจะใดน่อ สั่นก็สั่น ตอนแรกไหว้พระเสร็จก็ปันศีลก่า อันนั้นศีลนั้นมันจำได้เพราะมันจำมา แต่ขึ้นธรรมาสน์จะเทศน์ละกำนี้ เหลียวไปเหลียวมา เหลียววอกเหลียววาก บ่ช่างจะเอาธรรมหยังมาเทศน์ พอดีเหลียวไปหันใส่นกจอกมันลงมากินข้าวหมู่แม้ว ก็เลยเอาคำนกจอกมาเป็นธรรมเทศน์ มันเทศน์ว่าจะใด มันก็ว่า

          “นกจิกนกจอก กินข้าวพ่อออกแล้วก็บินหนี”

          เทศน์หยั่งอี้ไปเรื่อยๆ โดยจับใจความบ่ได้ ส่วนหมู่แม้วนั้นก็มาสงสัยว่า

          “เออ ตุ๊เจ้านี่เป็นตุ๊เป็นเจ้า จาใดว่ามาเทศน์เรื่องนกเรื่องหนู โอ หันท่าจะบ่ได้ความแล้วก้า หันท่าจะบ่ได้ความละ” ก็เลยพากันลุกหนีไปไหน ไปบอกหื้อปู่หนานมา มาผ่อมันเป็นจะใด ว่าตุ๊เจ้าตนนี้มาเทศน์เรื่องนกเรื่องหนู แม้วนั้นก็บอกหื้อหนานมา หนานมาก็มาตามคำแม้วบอก พอดีนั้นตุ๊เจ้าซัดตาหันหนานมามาพอดีก็เลยเปลี่ยนจังหวะเปลี่ยนธรรมที่ว่านกจิกนอกจอกกินข้าวพ่อออกแล้วบินหนี เปลี่ยนเป็นว่า

          “หนานมาเหยๆ รู้แล้วจะไปว่า ชิ้นควายตายห่า เท่าใดเท่ากัน” หนานมานั้นก็เข้าใจทันนึกว่ากัณฑ์เทศน์นั้นเท่าใดเท่านั้น หนานมาก็เลยลุกหนีไปเหีย พอธรรมนั้นจบก็ได้กัณฑ์เทศน์แล้วก็เปิดเลย บ่าแบ่งกันตวยหนานมาที่ได้ว่าไว้

          ต่อไปก็มาอยู่วันหนึ่ง ตุ๊เจ้าตนจริงนั้นก็เดินทางมาเพื่อจะมาเทศน์หื้อหมู่แม้วฟังเป็นประจำ พอดีก่อนที่จะมาเจอพระปลอมมาเทศน์เหียก่อน มาแผวก็ขึ้นธรรมาสน์มาเทศน์หื้อหมู่แม้วนั้นฟัง ตุ๊เจ้านั้นก็เทศน์ไปเทศน์มา หมู่บ้านก็ถามว่า

          “เป็นจาใดตะเจ๊าบ่มา หื้อตุ๊เจ้าตนอื่นมาแทนกา”

          ตุ๊เจ้าตนนั้นก็ว่า

          “โฮะ อาตมาบ่ได้หื้อมาแทนลู เป็นจาใด”

          “ก็ตุ๊เจ้าตนนั้นน่าก่า มาเทศน์เรื่องนกเรื่องหนู มันเทศน์ธรรมอะหยังมาเทศน์เรื่องนกเรื่องหนูว่าอานิสงส์ไร่อี้ล่อ เทศน์อานิสงส์ไร่เนี่ยข้าวมันจะออกดี”

          ตุ๊เจ้าก็ว่า

          “โอ บ่ใช่ลายเหียก้าท่านหมู่นี้ ถ้าจะถูกตุ๊เจ้าตนนั้นต้มแน่ๆ” เลยบ่ช่างเยียะใดก็เลยเทศน์เรื่องศรัทธาหรือความเชื่อหื้อหมู่แม้วฟัง

          นิทานเรื่องนี้สอนหื้อรู้ว่าการเชื่อคนหรืองมงายเชื่อคนง่ายโดยบ่มีเหตุผลก็ได้รับความเสียหายอย่างหมู่แม้วเนี้ยะ