ตุ๊กแกกินหาง



          ในอดีตกาลนานมาแล้ว ยังมีป่าแห่งหนึ่ง ป่าไม้นั้นเป็นป่าที่ใหญ่เหมือนกับป่าหิมพานต์ ป่าไม้นั้นก็เต็มไปด้วยหมู่ไม้ต่างๆ ไม้ใหญ่ไม้น้อยต่ำพ่องสูงพ่องปะปนกันไป
ยังมีไม้อยู่ไม้หนึ่ง ไม้ต้นนั้นเป็นไม้มะกอก ไม้ต้นนั้นเต็มไปด้วย มด ปลวกและแมลงต่างๆ เจาะเป็นโก๋นลึกลงไปเป็นที่อาศัยของแมลงหลายชนิดอยู่ในโก๋นนั้น ก็พอดีก๊กโตตัวนั้นธรรมดาต๊กโตเป็นสัตว์ขี้คร้าน มีก็อ้าปากหื้อแมงมดบินเข้าปากมันคนเดียว ขี้คร้านถึงขนาดนี้ผ่อลอ
อยู่มาวันหนึ่งมันก็ไต่ไปตามต้นไม้ต่างๆ อย่างที่ว่าไปๆ มาๆ ไปปะใส่ต้นไม้ต้นเนียะ ต้นมะกอกเป็นโก๋นที่แมงมดเจาะเข้าไปก็ไต่เข้าไปหา

          มันก็รำพึงรำพันในใจมันว่า “ข้ามาเจอของดีแล้ว ต่อไปนี้ข้าตึงบ่อดตายข้าตึงสบายแล้ว” ทีนี้มันก็เมาก้าอาหารการกินของมันในโก๋นนั้น มันเยียะจาใดมันก็กินแมงมดต่างๆ ในโก๋นนั้น มดแมงต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในโก๋นนั้นก็ได้รับความเดือดร้อน ก็ได้มาปรึกษากันว่า “บ่าเดี๋ยวนี้หมู่เฮาจะเยียะอย่างใด เฮาได้รับความเดือดร้อนเฮาพากันอพยพหนีไปดีกว่า ขืนอยู่ไปนี้ตายแน่ๆ จะต้องถูกจับกินเป็นวันๆ” ทีนี้มดแมงต่างๆ ก็พากันหนีภัยที่ถูกรบกวนจากต๊กโตตัวนั้นก็เลยหนีออกจากโก๋นนั้น ส่วนต๊กโตตัวนั้นก็มันก็จัดการจับกินแมงที่อยู่ในโก๋นนั้น กินไปๆ จนแมงที่อยู่ในโก๋นนั้นจะเสี้ยง พอดีกับต้นมะกอกมันย่อมจะมีชู้เวลามันเป็นโก๋นออกไป ชู้มันก็ออกมาชู้มันก็ขยับกำหน้อยๆ จนเหลือรูหน้อยเดียว จนในที่สุดก็ปิดปากโก๋น ต๊กโตก็ออกบ่ได้ มดแมงต่างๆ ก็เกือบจะหมดละในหั้น ต๊กโตจับเป็นอาหารจนหมดเสี้ยง ทีนี้เมื่อจับสัตว์ต่างๆ กินเสี้ยงหมดแล้ว เอาละตอนนี้มันจะเยียะอย่างใด ขบกินหางตัวเก่า

          ต๊กโตตัวนั้นขบกินหางตัวเก่าเตื้อหน้อยๆ ลายที่หนึ่ง ลายที่สอง หางมันอย่างว่า น่าน้อต๊กโตหางมันลายเป็นเส้นๆ ลายที่หนึ่งลายที่สองกินเข้าๆ จนหมดหาง เมื่อมันหมดหางแล้วจะเยียะอย่างใด กินขาหลังแล่ ขาหลังหมดกินตัวกินใส้มันจนถึงขาหน้า เมื่อมันกินหางกินตัวกินขาหน้ามันแล้วเหลือก้าหัว เหลียวผ่อเหลียววอกเหลียวแวกบ่มีไผเลยกินหัวตัวเก่า จนในที่สุดต๊กโตตัวนั้นก็ตายเพราะว่าความโง่ความเกียจคร้านของมัน

          นิทานเรื่องนี้สอนหื้อรู้ว่าความเกียจคร้านทำการทำงานมัวนั่งๆ นอนๆ กินของเก่านึกลำพองว่าของมันบ่หมดบ่เสี้ยง ผลที่สุดมันก็ฉิบหายไป เสี้ยงไปเพราะความโง่ความเกียจคร้านเหมือนต๊กโตที่กินหางตัวเก่า