“.............. เจ้าติโลกราชได้เป็นใหญ่เสวยราชสมบัติในนพบุรีเชียงใหม่ ก็ เทียรย่อมปูชาพระสิงห์ พุทธปฏิมาเจ้าบ่ขาดสาย ถึงฤดูกาล เมื่อควร สระสรงด้วยน้ําสุคันโธทก สักการะปูชาด้วยเข้าตอก ดอกไม้คันธของ หอม แล้วก็เล่นมโหรสพ ถ้วน 7 วัน 7 คืน ชุขวบชุปีแล ฯ อันว่า ปราสาทอันเป็นที่สถิตสําราญ แห่งพระสิงห์พุทธเจ้า นั้นก็หื้อใส่คําแดง ใหม่แถม 8,000 คํา หื้อ รุ่งเรืองด้วยแก้วทั้งหลายต่าง ๆ ปราสาทและ หน้าทวารก็แล้วลายคํา ประจิตริสนาด้วยแก้วทั้งหลาย เป็นดั่งวิมาน ทิพย์แห่งเทวดานั้นแล ภายบนหัวแห่งพุทธปฏิมาเจ้านั้น ก็ใส่เพดานคํา ฉัตรและขัดดอก ก็แล้วด้วยคํา แล้วก็ประดับด้วยแก้วต่าง ๆ ประมาณ 20 ลูก รุ่งเรืองด้วยเครื่องบูชาต่าง ๆ คือว่า บาตรคํา ขันคํา และน้ําต้น คํา ดอกไม้ประมาณ 800 ต้น พรรณนาคําทั้งมวลมี 808 บาทเฟื้องคํา แล ท้าวพระยาเสนาอามาตย์ราชมนตรี และปราชาราษําร์ทั้งหลาย และราชบุตรทั้งมวลก็ไหว้และบูชา พระสิงห์เจ้าแล อันว่าสมเด็จมหาสุ ตาธิบัติพุทธเจ้าได้เป็นพระยาในปีดับเหม้ามาถึงปีก่าไก๊ได้ 9 ปีแล ท้าวก็ ได้กระทําบุญกุศลมากหลายนัก ก็บ่อิ่มเต็มใจได้ ท้าวก็หื้อแต่งผ้าจีวร สังฆะผิว์อันแล้วด้วยสิ่งอัน ได้ 15 เท่า หนักได้ 608 บาทเฟื้องคํา แล้วก็ เอาเงินมาแสนหนึ่ง เพื่อจักสร้างมหาวิหารหลวง หื้อเป็น ที่สถิตสําราญ แห่งพระสิงห์พุทธปฏิมาเจ้าในปีก่าไก๊เดือน 9 ออก 8 ค่ํา เม็งวันพุธ ไทย กาบสีพุทธบดีบ่เศร้านักจัตฤกษ์ได้ 9 ตัวแล ฯ...........”