แกงหัวปลี เป็นแกงที่นิยมทำรับประทานกันทั่วไปในกลุ่มชาวล้านนา เพราะหัวปลีเป็นของหาง่าย โดยทุกบ้านมักจะปลูกกล้วยไว้ที่หน้าบ้านหรือหลังบ้าน และกล้วยมักจะมีลูกออกตลอดทั้งปี หากกล้วยตกปลีออกจนสุดเครือแล้ว หัวปลีที่หมดลูกจะต้องถูกตัดออก ไม่อย่างนั้นกล้วยจะลูกเล็กไม่อวบอ้วน เพราะน้ำถูกแย่งไปเลี้ยงหัวปลีหมด ซึ่งถือเป็นสิ่งไร้ประโยชน์สำหรับต้นกล้วย แต่หัวปลี กลับมีประโยชน์ต่อคน เพราะสามารถนำไปประกอบอาหารให้เอร็ดอร่อยได้
เมื่อได้หัวปลีมาแล้ว แกะเปลือกหรือส่วนกาบนอกที่มีสีแดงออกจนเหลือแต่หัวอ่อนด้านในที่มีสีครีมนวลทุบหัวปลีให้นุ่ม แล้วใช้มีดหั่นหัวปลีเป็นชิ้น ๆ พอเหมาะ แช่น้ำไว้ แกงหัวปลีจะต้องใส่ยอดชะอมและใบชะพลูเพื่อให้มีกลิ่นหอมชวนรับประทาน จึงต้องทำการล้างและเด็ดยอดชะอมและใบชะพลูอ่อนเตรียมไว้ จากนั้นโขลกเครื่องแกงโดยใช้พริกแห้ง ๔-๗ เม็ด กับกระเทียม หอมแดง ข่า ใส่กะปิ ๑ ช้อน โขลกให้ละเอียดเข้ากันดี ตักพริกแกงลงละลายในหม้อที่ต้มกระดูกหมูจนเดือดแล้ว จากนั้นใส่หัวปลีที่หั่นเตรียมไว้ คนให้เข้ากัน ปิดฝา เมื่อหัวปลีสุก ทุบแคบหมูหยาบๆ ใส่ลงไป ๔-๕ ชิ้น ปิดฝาไว้สักครู่ และใส่ยอดชะอมกับใบชะพลู ปรุงรสด้วยน้ำปลา คนให้เข้ากันจนมีรสชาติกลมกล่อมดีแล้ว ยกลงตักรับประทานได้