วัตถุดิบ เนื้อควาย (เนื้อสันนอกหรือสันใน) เครื่องใน ผ้าขี้ริ้ว (ย่อ) กระเพาะ (คันนาหรือต๋าสับปะรด) ตับ (อย่าลืมดี กับเพลี้ยหัวดี) เลือดก้อน
เครื่องปรุงที่ใช้ดิบ ข่า ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง (หัวสีเหลือง) ขีดกะปิ ส่วนสูตรของจังหวัดลำปางจะเผาหอมแดง และนำกะปิไปย่างไฟจะทำให้มีกลิ่นหอมยิ่งขึ้น
เครื่องเทศที่แห้งนำมาคั่วให้พอมีกลิ่นหอมและป่นหรือโขลกตำให้ละเอียด
ขั้นตอนทำลาบ นำเลือดมาขยำกับใบตะไคร้ ใบกะเพราดำ ใบจันทน์ และเกลือ เวลาลาบเนื้อจะใส่เกลือและเลือด ลาบให้ละเอียด (ถ้าใส่มะเขือพวงย่างจะทำให้ลาบเหนียวและมีรสหวานหรือบางทีใช้เปลือกต้นเพกาย่างและนำมาลาบกับเนื้อ) ส่วนสูตรของจังหวัดลำปางจะใส่มะเขือขื่นเผาไฟ และมักนำยอดอ่อนของใบฝรั่งมาลาบเข้ากับเนื้อและเลือดเพื่อป้องกันอาการท้องร่วงท้องเสีย แยกดีและผ้าขี้ริ้ว (ย่อ) คันนาไว้ใส่สดๆ เครื่องในอย่างอื่นใช้ต้มพร้อมกับเพลี้ย ผ้าขี้ริ้ว (ย่อ) คันนา หั่นเป็นชิ้นพอคำแช่น้ำแข็งไว้ เครื่องในต้มอื่นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
หมายเหตุ: เวลาคั่วเครื่องเทศส่วนที่เป็นพริกแห้งที่นำไส้ในพริกออก จะนำเมล็ดพริกไปคั่วอย่าให้ไหม้เก็บไว้ และนำเครื่องเทศ มะแขว่น อีกส่วนนำไปคั่วเก็บไว้
การยำลาบ ปรุงพริกลาบ นำเครื่องปรุงที่โขลกตำหรือป่นมาผสมกับพริกแห้ง กับเครื่องเทศแห้งที่ป่นไว้ผสมกับน้ำต้มเครื่องใน (กะพริกและเครื่องเทศให้พอดี) นำต้นหอม ผักชี (หอมป้อม) ผักชีฝรั่ง ใบผักไผ่ หั่นเป็นฝอย นำเนื้อที่ลาบใส่ในภาชนะ จากนั้นเติมพริกลาบ (แบ่งทีละนิด) ทำการยำหรือคนให้เข้ากันกับ ต้นหอม ผักชี (หอมป้อม) ผักชีฝรั่ง ใบผักไผ่ ที่หั่นเป็นฝอย เติมพริกลาบ พริกป่น เครื่องเทศ เกลือตามรสที่ถูกปาก แบ่งเติมตามความชอบของแต่ละคน ฉะนั้น น้ำดีจะเติมทีหลัง นำเครื่องในต้มที่หั่นไว้และผ้าขี้ริ้วมาใส่ลาบ (ส่วนเมล็ดพริกและมะแขว่นที่คั่วไว้นำมาใส่กรณีชอบรสจัด) รับประทานกับผักเครื่องเคียง เช่น ใบผักกาดขาว กะหล่ำปลี ผักคาวตอง(พลูคาว) ผักไผ่ ใบสาระแหน่ เพกา ใบจันทน์ ดอกสะเดาลวก ใบดีปลากั้ง ใบอ้มกบ
กรณีลาบปลา ลาบไก่ ลาบเป็ด และลาบเนื้อสัตว์อื่นๆ มีสูตรการทำคล้ายกับลาบหมู แต่จะมีความพิเศษแตกต่างกันไป เช่น ลาบปลาเพลี้ย จะมีรสขมนิดๆ และนิยมทอดหนังปลาโรยหน้า ลาบไก่ก็ทอดหนังไก่กรอบโรยหน้า ส่วนลาบเป็ดอาจโรยด้วยกากหมูทอดกรอบ ส่วนเครื่องโรยหน้าอื่นๆ ที่คล้ายกัน เช่น หอมแดงทอดกรอบ ใบมะนาวทอดกรอบ
ส่วนลาบปลาดุก จะใส่มะเขือขื่นแก่จัดเผาไฟ โรยด้วยข้าวคั่วให้หอม ลาบปลานิล ไม่ใส่มะเขือขื่นเผาแต่จะโรยข้าวคั่วเช่นกัน ขณะที่ลาบปลาช่อนมักไม่โรยข้าวคั่วเพราะเนื้อปลาช่อนฟูนุ่มอยู่แล้ว